วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

การหาไอเดียสำหรับรูปแบบธุรกิจ – สิ่งที่ต้องคำนึงถึง



            ในการสร้างรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ใหม่ มีเรื่องใหญ่ๆที่ต้องคำนึงถึงสองเรื่องในเบื้องต้น คือ
·       เราจะสร้างคุณค่าเพิ่มอย่างไร
·       เราจะเปลี่ยนคุณค่าเพิ่มที่เราสร้างขึ้น ให้เป็นประโยชน์กับเราได้อย่างไร

เรื่องแรก เราจะสร้างคุณค่าเพิ่มอย่างไร?
ในความเป็นจริง ธุรกิจก็คือกิจกรรมเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าและบริการที่มีอยู่ท่วมโลก โดยที่การเพิ่มคุณค่านี้ ต้องเป็นไปเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนในสังคม หรือเป็นประโยชน์ต่อคนในสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หากคุณค่าที่สร้างเพิ่มขึ้นนี้ มีมากในการรับรู้ของคนที่เป็นลูกค้า คุณก็จะขายได้ในราคาสูง
หากคุณค่าที่สร้างเพิ่มขึ้นนี้ เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมาก คุณก็จะขายได้ในปริมาณมาก
หากคุณค่าที่สร้างเพิ่มขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่ลอกเลียนแบบได้ยาก คุณก็จะผูกขาดและเพลิดเพลินกับกำไรนี้ได้นาน จนกว่าจะมีผู้ลอกเลียนแบบได้ หรือจนกว่าความนิยมของลูกค้าจะเปลี่ยน
นี่คือหลักการของการเลือกมุมที่จะเพิ่มคุณค่าของธุรกิจ
หากธุรกิจของคุณ เป็นเพียงแค่ซื้อสินค้าแพ๊คใหญ่มาแกะห่อเพื่อขายปลีก คุณค่าที่คุณสร้างขึ้นก็เพียงแค่แบกสต๊อคจนกว่าจะมีคนซื้อไป ซึ่งคุณก็ไม่สามารถที่จะเรียกมูลค่าเพิ่มจากกิจกรรมที่คุณทำได้มากนัก นอกจากสินค้านั้นเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ยากของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะไม่รู้ข้อมูล หรือความยากลำบากในการขนส่งก็ตาม
อีกทั้งการซื้อสินค้าแพ๊คใหญ่มาแกะห่อขายปลีกเช่นนี้ ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมาย จึงง่ายที่ใครๆจะลอกเลียนแบบ หากมีคนเห็นว่าการทำเช่นนี้มีกำไรมากเพียงพอจะจูงใจให้เขาทำบ้าง เขาย่อมเข้ามาเป็นคู่แข่งกับคุณได้ง่ายๆ จนทำให้กำไรที่ดูน่าสนใจในตอนแรก ตกลงสู่ระดับปกติ ที่ไม่น่าสนใจ
ความยากในการลอกเลียนแบบ จึงบอกถึงความยั่งยืนของกำไร
สิ่งเหล่านี้ เป็นประเด็นในการตัดสินใจเพื่อทำกิจกรรมเพิ่มคุณค่าของธุรกิจ

เรื่องที่สอง เราจะเปลี่ยนคุณค่าเพิ่มที่เราสร้างขึ้น ให้เป็นประโยชน์กับเราได้อย่างไร?
ถ้าคุณมีทองอยู่บาทนึง คุณจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร ? บางคนอาจขายไปเพื่อแลกกับเงินสด บางคนอาจนำเข้าโรงจำนำเพื่อแลกเงินมาใช้ชั่วคราว รอเวลาที่ได้ราคาดีๆจึงค่อยขายไป แต่บางคนพอใจจะเก็บไว้เพื่อรักษามูลค่าของเงิน
แต่บางคนเลือกที่จะนำทองบาทนั้นมาเป็นรางวัล โดยออกสลากหนึ่งร้อยใบและขายให้กับผู้สนใจเสี่ยงโชค กติการง่ายๆก็คือ หากเลขท้ายสองตัวของรางวัลที่หนึ่งของงวดนั้น ตรงกับเลขในสลากของใคร คนนั้นได้ทองไป
หากว่าเขาขายสลากหนึ่งร้อยใบ ในราคาใบละห้าร้อยบาท สิ่งที่ผู้ซื้อสลากได้ก็คือ โอกาสในการได้รับทองคำมูลค่าสองหมื่นกว่าบาท ในราคาเพียงห้าร้อยบาท
ในขณะที่สิ่งที่ผู้ขายสลากได้รับคือ หากเขาขายสลากได้หมด เขาจะได้รับเงินห้าหมื่นบาท มากกว่าการนำทองไปขายถึงหนึ่งเท่าตัวเลยทีเดียว
นี่คือไอเดียหนึ่งในการแปลงสิ่งที่เรามีอยู่ให้เป็นเงิน การขายไม่ใช่วิธีเดียวในการแลกเปลี่ยน
ร้านกาแฟแต่เดิม เมื่อติดกระจกติดแอร์ เพิ่มความสบายให้กับลูกค้า ลูกค้าที่เข้ามาก็ไม่ได้มีเพียงคนที่อยากกินกาแฟ แต่กลายเป็นสถานที่นัดพบปะสังสรรค์กัน เป็นสถานที่อ่านหนังสือ เป็นสถานที่ทำกิจกรรมสบายๆกึ่งส่วนตัวของคนหลากหลายกลุ่ม เมื่อเพิ่มบริการอินเตอร์เน็ต และปลั๊กไฟให้ลูกค้าได้ใช้กับอุปกรณ์ที่นำมาเอง ก็กลายเป็นอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่เพิ่มภาพลักษณ์เรื่องความทันสมัย พร้อมๆกับเพิ่มโอกาสของลูกค้าในการเข้าร้าน
แต่ร้านสตาร์บั๊ค กลับมีวิธีการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ มากกว่าเพียงการขายกาแฟและอาหารในร้าน
สตาร์บั๊ค ได้ออกบัตรเงินสดเพื่อซื้อกาแฟในร้าน สำหรับรองรับพฤติกรรมของลูกค้าที่เริ่มคุ้นเคยกับบัตรเครดิต และพกเงินน้อยลง บัตรนี้ก็เหมือนเดบิตการ์ดของธนาคาร ที่ต้องเติมเงินในบัตรเสียก่อน ต่างกันก็แต่ บัตรของสตาร์บั๊คนั้นไม่ได้ถอนเป็นเงิน แต่ถอนเป็นกาแฟ
สิ่งที่สตาร์บั๊คได้ นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า สตาร์บั๊คยังได้เงินสดไปหมุนล่วงหน้า และยังมั่นใจได้ว่า ลูกค้าไม่หนีไปไหน เพราะได้จ่ายเงินค่ากาแฟล่วงหน้าไปหลายแก้ว หากจะไม่กลับมาใช้สิทธิ์ ก็จะเสียเปล่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น