วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แนวทางการตัดสินใจในการเข้าสู่ GPP

สิ้นปีนี้ ร้านขายยาจะต้องผ่านตรวจตามมาตรฐาน GPP เพื่อใช้ประกอบการต่ออายุใบอนุญาตขายยาเป็นปีแรก สิ่งที่สมาชิกผู้ประกอบการที่ยังไม่พร้อมจำนวนมากกังวลใจคือ ควรจะตัดสินใจอย่างไร ? มีทางเลือกอย่างไรบ้างสำหรับปู้ที่ไม่พร้อม ?

ในบทความนี้ เราจะไม่ก้าวล่วงไปถึงวิธีปฏิบัติตามเกณฑ์ GPP แต่จะพูดถึงแนวทางการตัดสินใจโดยใช้เหตุผลทางธุรกิจเท่านั้น
จากการที่ได้คุยกับสมาชิกจำนวนมาก พอจะประมวลภด้ว่า ปัจจัยในการตัดสินใจ หรือสิ่งที่สมาชิกกังวลก็คือ ค่าจ้างเภสัชกรประจำ, ยอดขาย, การหาและเก็บรักษาเภสัชกรไว้กับร้าน

ตัดในเรื่องวิธีการหาและเก็บรักษาเภสัชกร ซึ่งเป็นเรื่องวิธีการจัดการที่สามารถนำเครื่องมือด้านทรัพยากรมนุษย์มาช่วยลดปัญหาได้ เราจึงใช้ตัวแปรแค่ค่าใช้จ่าย กำไร และโอกาสทางการตลาด เป็นปัจจัยในการตัดสินใจดังนี้

เริ่มต้นจากการประเมินว่า กำไรพอจ่ายค่าจ้างเภสัช และค่าใช้จ่ายอื่นๆหรือไม่ ?

ไม่ว่าร้านคุณจะมีตัวคุณ หรือลูกหลานเป็นเภสัชกร ที่คุณอาจบังคับจ่ายค่าจ้างเดือนละหมื่นห้า หรือจะต้องจ้างเภสัชจากภายนอกมาเป็นผู้ปฏิบัติการในราคาห้าหมื่น ให้นำค่าจ้างเภสัชกรที่คุณต้องจ่ายจริง มารวมคำนวณกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำ-ไฟ-เน็ต-โทรศัพท์ ค่าจ้างบุคลากรอื่น ฯลฯ

หากกำไรจากการขาย มีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว คุณก็สามารถเลือกทาง “สู้” เป็น ขย 1 ต่อไป

แต่ถ้ากำไรจากการขาย ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่าย คุณต้องถามตัวเองแล้วว่า จะสู้ต่อหรือไม่

การประกอบการวันนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อน สมัยก่อนหากเริ่มต้นธุรกิจได้ ก็นั่งกินนอนกินยาว แต่สมัยนี้วิธีทำมาหากินแบบของคุณมันจะอยู่ได้ไม่นาน ไม่นานจริงๆ ก็จะมีคนเลียนแบบ แล้วทำให้ดีกว่าคุณ หรือแม้แต่เสนออะไรบางอย่างที่แย่งลูกค้าไปจากมือคุณได้โดยที่ไม่ต้องเลียนแบบ เพราะคนสมัยนี้ชอบลองของใหม่ ลูกค้าพร้อมจะตีจากคุณไปได้ง่ายๆ ถ้าคุณไม่พยายามสุดแรงที่จะรักษาไว้

หากคำตอบของคุณคือไม่สู้ ทางเลือกที่เหมาะคือ “หนี” ออกจากธุรกิจนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ การหาทางออกจากธุรกิจนี้แบบสวยๆ

แต่ถ้าคำตอบคือ คุณพร้อมจะสู้ต่อ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจนี้หรือธุรกิจไหน ทุกวันนี้ก็ต้องดิ้นรนทั้งนั้น ข้อดีของการทำธุรกิจทุกวันนี้คือ เครื่องมือเยอะ มีอะไรมากมายให้คุณหยิบใช้ตามความต้องการ เครื่องมือหลายๆอย่างก็ใช้ฟรีด้วยซ้ำ โอกาสจึงเปิดกว้างสำหรับคุณ และทุกๆคน ซึ่งเมื่อมองในอีกด้านหนึ่ง โอกาสที่เอื้อให้คนเข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย จึงเป็นวิกฤติสำหรับธุรกิจที่ประตูเปิดกว้างสำหรับทุกคน

ถ้าคุณพร้อมที่จะสู้ พร้อมจะเคลื่อนไหวมองหาโอกาสเพื่อติดอาวุธให้กับตัวเองตลอดเวลา ให้ลองเปรียบเทียบกำไรจากการขายยาที่ต้องขายโดยเภสัชกร เทียบกับกำไรที่ได้จากการขายสินค้าอื่นว่า มากเพียงใด คุณพร้อมที่จะตัดกำไรส่วนนี้ทิ้งไปหรือไม่

ถ้ากำไรส่วนนี้ เป็นสัดส่วนที่มากเกินกว่าที่คุณจะตัดใจทิ้งไป ก็ให้คุณมุ่งหน้าเลือกทาง “สู้” เป็นร้าน ขย 1 ต่อไป

ถ้ากำไรส่วนนี้น้อย คุณสามารถตัดทิ้งได้โดยที่ผลกระทบไม่มากนัก ทางเลือกที่เหมาะสมคือ “ถอย” ลดระดับใบอนุญาตลงเป็น ขย บ แล้วหารายได้จากอย่างอื่นมาทดแทน

แต่ถ้าก้ำกึ่ง แบ่งรับแบ่งสู้ ให้คุณประเมินโอกาสทางการตลาดของร้านคุณ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพทำเล ระดับการแข่งขัน จำนวนลูกค้า ฯลฯ ดูว่า คุณมีโอกาสทากเพียงใด

ถ้ามีโอกาสมาก คุณสามารถเลือกทาง “สู้” เพื่อเป็น ขย 1 ต่อไป
แต่ถ้าโอกาสทาวการตลาดของคุณมีน้อย ทางเลือก “ถอย” ลดระดับใบอนุญาตลงเป็น ขย บ จะปลอดภัยสำหรับคุณ

แต่ไม่ว่าคุณจะ “สู้” หรือ “ถอย” สิ่งที่คุณต้องทำคือ คุณต้องมี “ของ” หรือ “ความสามารถหลัก” ให้พร้อมสำหรับเส้นทางที่คุณจะไป ซึ่งเราจะมาคุยกันในฉบับหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น